ฟุตบอล จูปิแลร์ โปรลีก เดินทางเข้า 4 เกมสุดท้ายของฤดูกาล โดยที่ โอเอช ลูเวิน มีคะแนนตามหลังโซนเพลย์ออฟลุ้นแชมป์ (Championship Play-Off หรือ เพลย์ออฟ 1) อยู่ 2 คะแนน จากผลเสมอ 3-3 ในเกมล่าสุดที่บุกไปเยือน อูเพน
แน่นอนว่าเกมรุกของทีมเป็นจุดแข็งที่ทำผลงานได้ดีต่อเนื่องตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาล 2020/21 ซึ่ง โอเอช ลูเวิน ทำประตูในเกมลีกฤดูกาลนี้ไปแล้ว 49 ประตู จากการลงเล่น 30 นัด มากสุดเป็นอันดับ 4 ของลีก เป็นรองแค่ คลับ บรูจ ทีมจ่าฝูง, เกงค์ และ เบียร์ช็อต เท่านั้น
ดาวยิงหมายเลขหนึ่งของทีมอย่าง โธมัส อองรี เป็นผู้รับผิดชอบหลัก ฤดูกาลนี้ทำไปแล้ว 20 ประตู รั้งรองดาวซัลโวลีกสูงสุดของเบลเยียม คิดเป็น 40.8 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประตูทั้งหมดที่ทีมทำได้
นอกนั้นผู้เล่นที่ยิงประตูให้กับทีมรองลงมามี 2 คน คือ คามาล โซวาฮ์ และ ซาเวียร์ แมร์ซิเอร์ ซึ่งทำไปแล้วคนละ 8 ประตูเท่ากัน โดยทั้ง อองรี, โซวาฮ์ และ แมร์ซิเอร์ ถือเป็น 3 แนวรุกตัวหลักของทีมชุดนี้ตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล
อองรี เป็นผู้เล่นที่มีผลงานคงเส้นคงว่าที่สุด ขณะที่ โซวาฮ์ ฟอร์มแผ่วไปตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วและกำลังพยายามเรียกฟอร์มการเล่นที่ดีเหมือนในช่วง 3 เดือนแรกกลับมา
ไฮไลท์ที่น่าสนใจก็คือจอมทัพของทีมอย่าง ซาเวียร์ แมร์ซิเอร์ ที่ก่อนหน้ามีช่วงฟอร์มตกไปเช่นเดียวกัน เริ่มตั้งแต่กลับมาจากโปรแกรมทีมชาติช่วงเดือนพฤศจิกายน แต่ดูเหมือนว่ากองกลางกัปตันทีมกำลังกลับมาคืนฟอร์มเก่งได้ทันเวลาพอดี
แมร์ซิเอร์ ใช้เวลาในการเรียกความมั่นใจอยู่พอสมควร จากที่ผลงานดูแกว่งๆ ไปราว 2 เดือนเศษ แต่ใน 2 เกมหลังสุด ดาวเตะฝรั่งเศสก็แสดงให้เห็นถึงจังหวะการเล่นและความมั่นใจที่น่าจะกลับมาเต็มร้อยแถมด้วยประตูที่ทำได้จากทั้ง 2 นัดจากฟรีคิกสุดสวยและจังหวะหลุดเดี่ยวที่หลุดเข้าไปยิงอย่างเยือกเย็น
กองกลางหมายเลข 10 เป็นผู้เล่นที่ลงสนาม (เกมลีก) ให้กับ โอเอช ลูเวิน ครบทุกเกม ในฤดูกาลนี้ และยังเป็นผู้เล่นที่มีสถิติแอสซิสต์มากที่สุดของลีก ด้วยจำนวน 15 แอสซิสต์ เท่ากับ ราฟาเอล โฮลซ์เฮาเซอร์ มิดฟิลด์จอมทัพของ เบียร์ช็อต
แมร์ซิเอร์ ปัจจุบันในวัย 31 ปี เริ่มเล่นฟุตบอลในทีมเยาวชนของ มงต์เปลลิเยร์ และมีประสบการณ์ค้าแข้งในลีกรองกับหลายทีมของฝรั่งเศส ก่อนย้ายมาเล่นในเบลเยี่ยมเป็นครั้งแรกกับ คอร์ไทรจ์ก ในจูปิแลร์ โปรลีก เมื่อปี 2016
จากนั้นในปี 2017 ดาวเตะฝรั่งเศสก็ย้ายมาร่วมทีม เซอร์เคิ่ล บรูจ ทีมในลีกรองของเบลเยี่ยม โดยเจ้าตัวได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของพร็อกซิมุส ลีก ในฤดูกาล 2017/18 จากผลงานอันยอดเยี่ยมในฤดูกาลแรกกับ เซอร์เคิ่ล บรูจ ที่ทำไป 10 ประตูกับอีก 9 แอสซิสต์ พาทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่จูปิแลร์ โปรลีก ได้สำเร็จ
แมร์ซิเอร์ เป็นนักเตะคนแรกที่โอเอช ลูเวิน ดึงเข้ามาเสริมทีมในฤดูกาล 2019/20 เพื่อเป้าหมายสำคัญคือการเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุด ซึ่งกองกลางฝรั่งเศสปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างรวดเร็วและใช้เวลาไม่นานในการขึ้นมาเป็นแกนหลักของทีม
หลังจากพา ลูเวิน เลื่อนชั้นได้สำเร็จ และลงเล่นต่อเนื่องกับทีมเป็นซีซั่นที่ 2 แมร์ซิเอร์ ได้รับความไว้วางใจจากกุนซือ มาร์ค บรีส์ ให้เป็นกัปตันทีมในฤดูกาลนี้ ซึ่งแม้จะมีช่วงที่ผลงานแผ่วไปบ้าง ก็เป็นเรื่องเข้าใจได้ของฟุตบอลที่ต้องลงเล่นต่อเนื่องยาวนานร่วม 10 เดือน ทว่าถ้ามองถึงผลงานโดยรวม แน่นอนว่าฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่เจ้าตัวสอบผ่านอย่างไม่ต้องสงสัย
น่าเสียดายเล็กๆตรงที่ทีมยังขาดผู้เล่นสำคัญอย่าง ซาส์ช่า โคติช แนวรับหมายเลขหนึ่งของทีมที่ยังไม่พร้อม ทำให้ต้องลุ้นผู้เล่นที่เหลืออยู่ให้สร้างผลงานในช่วงที่กองหลังชาวเยอรมันยังไม่กลับมา ซึ่งก็คงเป็นจุดที่กุนซืออย่าง มาร์ค บรีส์ พยามยามจะปรับอยู่เหมือนกันในช่วงสำคัญของฤดูกาลแบบนี้ด้วยการสลับใช้ผู้เล่นที่มีอยู่ให้ได้คุณภาพในเกมรับมากที่สุด
ดูแล้วการเบียดแย่ง 4 อันดับแรกเพื่อลุ้นแชมป์และโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งจะได้สิทธิ์้เพียง 2 ทีม ยังต้องวัดกันแบบเกมต่อเกม และแม้ว่าเกมรับยังเป็นจุดที่ทีมต้องปรับ แต่การกลับมาคืนฟอร์มเก่งของ แมร์ซิเอร์ ในช่วงเวลานี้พอดีเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากสำหรับ โอเอช ลูเวิน ในช่วงโปรแกรม 4 นัดสุดท้ายของฤดูกาลปกติต่อเนื่องไปถึงโปรแกรมเพลย์ออฟ ซึ่งถ้าดาวเตะฝรั่งเศสช่วยทีมได้สำเร็จอีกครั้ง มันอาจจะกลายเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดของเจ้าตัวในการลงเล่นฟุตบอลอาชีพก็เป็นได้