หลังจาก โอเอช ลูเวิน ลงเล่นในพร็อกซิมุสลีก ลีกระดับ 2 ตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อน กระทั่งเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในจูปิแลร์ โปรลีก ลีกสูงสุดในฤดูกาลนี้ มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาในด้านต่างๆทั้งในและนอกสนามอย่างต่อเนื่อง
การบริหารจัดการเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากกับการทำทีมฟุตบอลในทุกประเทศ ยิ่งเป็นในลีกเบลเยี่ยมก็ยิ่งมีความยุ่งยากในแง่มุมอื่นๆเพิ่มเติมเข้ามาอีก
สนามแข่งขันของสโมสรเดิมใช้ชื่อว่า “เดน ดรีฟ สเตเดี้ยม” ได้รับการปรับปรุงใหม่ในปัจจุบัน และเปลี่ยนชื่อเป็น “คิง เพาเวอร์ แอท เดน ดรีฟ สเตเดี้ยม” กลายเป็นหนึ่งในสนามหลักที่สหพันธ์ลูกหนังเบลเยี่ยมเลือกเป็นสังเวียนเหย้าของเกมทีมชาติในระดับต่างๆอยู่บ่อยครั้ง จากคุณภาพของสเตเดี้ยมตั้งแต่พื้นหญ้าไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่จำเป็นพร้อมในทุกด้าน
ชุดแข่งขันที่เมื่อ 5 ปีก่อนเป็นแบรนด์ “Vermarc Sport” แบรนด์ผลิตภัณฑ์กีฬาที่เน้นจักรยานเป็นหลัก ของเบลเยี่ยม จนมาถึงฤดูกาลปัจจุบันที่ทีมลงสนามภายใต้ยูนิฟอร์มของแบรนด์ระดับโลกอย่าง “adidas”
นี่เป็นเพียงตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงซึ่งพอเห็นได้จากการดูเกมของ โอเอช ลูเวิน ลงเล่นในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าคงเป็นแค่ส่วนเล็กๆจากการปรับเปลี่ยนเบื้องหลังอีกมากมาย
การบริหารจัดการที่สำคัญอีกจุดหนึ่งก็คือการบริหารจัดการเรื่องผู้เล่น ไม่ว่าจะเป็นการยืมตัว ซื้อ-ขาย หรือการปล่อยผู้เล่นออกจากทีมซึ่งน่าจะเป็นการทำงานร่วมกันของหลายฝ่าย
หลังจากขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดเป็นฤดูกาลแรก ผู้เล่นที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่ในระดับลีก 2 และเลื่อนชั้นขึ้นมาพร้อมทีม หลายคนต้องย้ายออกไป
การดึงผู้เล่นในระดับที่ใช่กับลีกสูงสุดเป็นสิ่งจำเป็นมาก และทีมทำได้ดีโดยเฉพาะกับการเสริมนักเตะใหม่ไม่ว่าจะเป็นการยืมตัวหรือซื้อขาด
ในเกมล่าสุดที่ทีมบุกไปเสมอกับ เควี มิเชเลน 2-2 ผู้เล่นใหม่ที่เล่นกับทีมเป็นฤดูกาลแรก ก็ประเดิมประตูแรกให้กับทีมได้สำเร็จทั้ง แคสเปอร์ เดอ นอร์ และ ซีเบ้ สไครจ์เวอร์ส
สไครจ์เวอร์ส เป็นการซื้อขาดในช่วงตลาดรอบล่าสุดจาก คลับ บรูจ ขณะที่ เดอ นอร์ เป็นการเสริมทัพแบบยืมตัวซึ่งทีมดึงแบ็กซ้ายรายนี้มาจากสโมสร เกงค์
แคสเปอร์ เดอ นอร์ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น เป็นผู้เล่นฟูลแบ็คที่มีผลงานคงเส้นคงวาที่สุดของทีมตลอดซีซั่น มีสมดุลของเกมที่ดี ทั้งเกมรับและเกมรุก จัดเป็นดีลยืมตัวที่ดีที่สุดของทีมในฤดูกาลนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
นอกจากนั้นยังมีผู้เล่นที่ โอเอช ลูเวิน ยืมตัวมาร่วมทีมและทำผลงานได้ดีในฤดูกาลนี้ทั้ง วาคลาฟ เจเมลก้า (ยืมตัวมาจาก ซิกม่า โอโลมุช) ,ติโบลต์ ฟลีติงค์ (ยืมตัวมาจาก คลับ บรูจ) และแน่นอนต้องรวมถึง คามาล โซวาฮ์ ที่ยืมตัวมาจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ก่อนหน้านี้ด้วย
กับเป้าหมายของทีมที่ไม่ใช่แค่การประคองตัวเพื่อเล่นในลีกสูงสุด แต่ต้องการยกระดับทีมขึ้นไปเรื่อยๆ และฤดูกาลนี้โอเอช ลูเวิน ยังได้ลุ้นใน 3 นัดสุดท้ายเพื่อไปการไปเล่นฟุตบอลยุโรป
เกมสามนัดสุดท้ายกับ เกงค์,เซอร์เคิ่ล บรูจ และ วาสแลนด์ จะเป็น 3 ด่านสำคัญที่จะชี้ว่า ท้ายที่สุดแล้วฤดูกาลนี้การเดินทางของโอเอช ลูเวิน จะจบลงอย่างไร จบอันดับที่ 1-4 เพื่อเล่นใน เพลย์ออฟ 1 จบอันดับที่ 5-8 เพื่อไปลุย เพลย์ออฟ 2 หรือ จบอันดับที่ 9 ลงมา ก็จะสิ้นสุดฤดูกาลทันที ลุ้นกันต่อไปจนถึงนัดสุดท้ายครับ