โอเอช ลูเวิน มีโปรแกรมสุดท้าทายกับจ่าฝูงของจูปิแลร์ โปรลีก อย่าง คลับ บรูจ ค่ำคืนนี้ คิกออฟ 01.45 น.
เราจะพาไปทำความรู้จักกับจ่าฝูงอย่าง คลับ บรูจ หนึ่งในทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอลเบลเยี่ยมในปัจจุบัน
สโมสรฟุตบอลคลับ บรูจ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1891 จากนักเรียนคาทอลิกแห่งโรงเรียน โบรเดอร์ส ซาเวเรียเน่น และ โคนิงลิจก์ อาเทนุม ในชื่อของสโมสร “บรูจ เอฟซี” ก่อนร่วมแข่งขันลีกฟุตบอลเบลเยี่ยมตั้งแต่ปี 1895 เป็นต้นมา
คลับ บรูจ ก่อร่างสร้างตัวในฐานะสโมสรฟุตบอลในลีกเบลเยี่ยม และตั้งแต่ปี 1959 พวกเขายังไม่เคยตกชั้นจากลีกสูงสุดอีกเลย
พวกเขาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดไปทั้งสิ้น 16 สมัย (ครั้งล่าสุดคือแชมป์จูปิแลร์ โปรลีก ปี 2019) และฟุตบอลถ้วย (ปัจจุบันในชื่อโครกี้ คัพ) 11 สมัย มากที่สุดเป็นสถิติของรายการ และจุดสูงสุดในเวทีฟุตบอลยุโรป คือรองแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในปัจจุบัน) เมื่อปี 1978 โดยแพ้ให้ ลิเวอร์พูล จากอังกฤษ 0-1 ในรอบชิงชนะเลิศ
คลับ บรูจ กำลังทำผลงานได้ดีในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลปัจจุบัน โดยนัดล่าสุดบุกชนะ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์กจากรัสเซีย 2-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขามีนักเตะอย่าง ฮานส์ วานาเค่น ที่ก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในผู้เล่นตัวหลักทีมชาติเบลเยี่ยม รวมถึง เอ็มมานูเอล เดนนิส ศูนย์หน้าชาวไนจีเรียน และ ซิมง มินโญเล่ต์ อดีตผู้รักษาประตูของ ลิเวอร์พูล
ฟิลิปป์ แกลกมงต์ รับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมของ คลับ บรูจ ในปัจจุบัน หลังจากเริ่มงานกับสโมสรนี้ด้วยการเป็นแมวมองเมื่อปี 2011 และศึกษางานโค้ชฟุตบอลมา จนกระทั่งได้เป็นเฮดโค้ชในอีก 8 ปีหลังจากนั้น โดยระหว่างทางเขาผ่านงานคุมทีมทั้งวาสแลนด์ เบเวอเรน และ เคอาร์ซี เกงค์ มาแล้วเช่นกัน
แยน เบรเดล สเตเดี้ยม เป็นสนามที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดสนามหนึ่งในเบลเยี่ยม ทุกครั้งที่มีเกมในบ้าน แฟนบอลจะซื้อบัตรเข้าชมจนหมดโดยเร็ว แฟนบอลของคลับ บรูจ ได้รับการยกย่องว่าเป็น “นักเตะหมายเลข 12” กระทั่งสโมสรต้องยกเลิกหมายเลขนี้ เพื่อเป็นเกียรติให้กับแฟนบอลของทีมทุกคน